เหตุผลที่คุณควรมีรถ TOYOTA CAMRY ติดมือไว้สักคัน
ถ้าพูดถึงรถหรูระดับผู้บริหาร คงไม่มีใครไม่รู้จัก 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 รถยนต์ซีดานขนาดกลางที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในบ้านเรา จัดได้ว่าเป็นรถที่มียอดการใช้งานเป็นอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็น 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูดูแพง มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆภายในรถและพิเศษโดยเฉพาะส่วนของเครื่องยนต์ที่เป็นบล็อคขนาด 2.0
ถือเป็นรถที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหน มีไว้ก็ไม่ OUT กันเลยทีเดียว และวันนี้ 𝗖𝗔𝗥𝗦ˣ จะพามาเจาะลึกกันค่ะ ว่าเพราะอะไร 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ถึงเป็นรถที่ควรมีติดมือไว้สักคันค่ะ
จุดเด่นของ 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ปี 2018 สร้างจากสิ่งที่ผู้ผลิตเรียนรู้จากในอดีตว่า “ลูกค้าไม่ได้มองหาแค่รถที่ใช้งานทนทาน และ มีประโยชน์ใช้สอยดีงามเพียงอย่างเดียว” แต่ลูกค้ายังมองหารถที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย ตอบโจทย์การขับขี่ และมีระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ทางโตโยต้าเองจึงได้พัฒนา 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ตามความต้องการของลูกค้าเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานทุกคน
รูปโฉมภายนอกด้านโครงสร้างจะเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ต่างกันที่กันชนหน้าที่มุมทั้งสองข้างจะไม่มีไฟมาให้แต่จะเป็นช่องตะแกรงสีดำแทน และส่วนที่ชัดเจนที่สุดก็คือในรุ่น 2.0 G จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยางขนาด 215/60 R16 อีก
จุดสังเกตหนึ่งก็จะเป็นโลโก้ VVT-iW ที่ด้านข้างบริเวณซุ้มล้อหน้า และโลโก้ 2.0 G กับ D-4S ที่ฝากระโปรงท้ายส่วนภายในใช้สีเบจ พร้อมลายไม้สีน้ำตาลดำ ให้ความหรูหรา มีมาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มีระบบควบคุมอัติโนมัติ (Cruise Control ) ควบคุมการทำงานของเครื่องเสียงพร้อมจอแสดงผลข้อมูล
เครื่องเสียงของ 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 เป็นแบบ CD 1 แผ่น พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง พร้อมช่องต่อ USB, AUX และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายบริเวณกล่องคอนโซลกลางที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานใน Toyota Camry รุ่นใหม่ทุกรุ่น
แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ ดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบปรับอากาศแบบ Dual Auto ระบบปรับอากาศแบบแยกควบคุมระดับอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ได้ตามความต้องการทั้งสำหรับผู้ขับ และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้าด้านคนขับ ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน
𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 มาพร้อมเครื่องยนต์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-iW (VVT-i ทั้งด้านไอดีและไอเสีย) พร้อมระบบการฉีดน้ำมันแบบ D-4S รหัส 6AR-FSE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสุงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ (มากกว่ารุ่นเดิม 20 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ (มากกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Sequential Shift 6 สปีด (ในรุ่นเดิมเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด) ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร4 และสามารถรองรับเชื้อเพลิง E20 ได้ด้วย
สำหรับระบบ VVT-iW เป็นระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย โดยในฝั่งของไอดีสามารถปรับจังหวะการเปิดวาล์วได้กว้างและปิดได้ช้า มีผลทำให้ส่วนผสมของอากาศและน้ำมันเผาไหม้ได้สมบูรณ์ ส่วนระบบ D4-S จะมีหัวฉีด 2 ตัวต่อหนึ่งพอร์ต ตัวหนึ่งอยู่ที่ท่อร่วมไอดี อีกตัวอยู่ในห้องเผาไหม้ โดยมีกล่อง ECU ควบคุมการฉีดจ่ายน้ำมันให้แม่นยำ ทำให้การขับขี่ในรอบต่ำและรอบสูงสามารถผลิตกำลังได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยในการประหยัดน้ำมันอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณควรมีรถ 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ติดมือไว้สักคัน
รับชมรีวิวรถซีดานผู้บริหารราคา Eco Car กับ TOYOTA CAMRY 2.0 G
และเราก็ได้แนะนำรายละเอียดของ 𝗧𝗢𝗬𝗢𝗧𝗔 𝗖𝗔𝗠𝗥𝗬 𝟮.𝟬 𝗚 ให้ทุกท่านได้รู้จักคร่าวๆแล้วนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสำหรับผู้ที่กำลังลังเลว่ารถคันไหนคือรถที่ใช้สำหรับคุณ
หากสนใจอยากชมหรือทดลองขับก็สามารถมาได้ที่ 𝗖𝗔𝗥𝗦ˣ สาขาใกล้บ้านคุณ (เช็คสาขาที่มีทั้งหมด) หรือรับชม สินค้าทั้งหมด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official ออกรถที่ 𝗖𝗔𝗥𝗦ˣ ออกรถเพียง 𝟱𝟱 บาท รับประกัน 𝟱 ปี 𝟱𝟬,𝟬𝟬𝟬 กม. 🧡
ข่าวสารอื่นๆ
วิธีสังเกตเสียงของเครื่องยนต์ที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาในรถยนต์
กรุณากรอกข้อมูลของท่าน
เราจะทำการติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด
ทีมงาน CARS X จะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด